สรุปทักษะและเทคนิคการสอน

สรุปความจากการฟังครูสอน
ในการสอนของครูนั้นจะมีทักษะการสอน ทักษะคือ ความชำนาญ ความคล่องแคล่ว ว่องไว นอกจากครูมีทักษะในการสอนแล้วครูจะต้องมีเทคนิคต่างๆ ที่จะนำมาสอนเด็กได้ เทคนิคการสอน คือ กลวิธีในการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน ซึ่งมีความหมายต่างจากทักษะการสอนทักษะการสอนสามารถแบ่งออกเป็น 18 ทักษะ และมีความสำคัญต่อการสอน เช่น ทักษะนับเป็นจุดมุ่งหมายหมวดหนึ่งของการศึกษา เป็นการส่งเสริมความชำนาญ คล่องแคล่ว หรือเชี่ยวชาญในการปฏิบัติการสอน ทักษะจะช่วยไม่ให้เกิดความผิดพลาด ช่วยให้งานสอนบรรลุตามวัตถุประสงค์ ในการสอนครูจะต้องมีทักษะพื้นฐานในการสอน
การใช้ทักษะการนำเข้าสู่บทเรียน
เทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียน ใช้อุปกรณ์การสอน เช่น ของจริง รูปภาพ แผนที่ แผนภูมิให้นักเรียนลองทำกิจกรรมบางอย่างที่สัมพันธ์กับบทเรียน เช่น การให้ยืนแสดงท่าทางต่างๆ สนทนาซักถามถึงเรื่องต่างๆ เพื่อนำเข้าสู่บทเรียนและต้องมีการทบทวนบทเรียนเดิมที่สัมพันธ์กับบทเรียน
การใช้วาจา กิริยา ท่าทางในการสอน นับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งของครูการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนกิริยา
ครูจำเป็นที่ต้องเดินไปหาเด็ก เดินไปเพื่อนแสดงความใกล้ชิด เด็กจะได้รู้สึกว่าครูสนใจ
การใช้มือและแขน
ใช้ประกอบท่าทางในหารพูด ซึ่งจะเป็นสิ่งดูดความสนใจของนักเรียนเพราะนักเรียนสมใจดูสิ่งที่เคลื่อนไหวมากกว่าสิ่งที่นิ่ง การใช้มือและแขนควรใช้ให้สัมพันธ์กับสิ่งที่สอน
3.การแสดงออกทางสีหน้า สายตา
เป็นสื่อหนึ่งที่ใช้สื่อความหมายกับผู้เรียน ผู้เรียนจะเข้าใจความรู้สึกหรือเข้าใจในอารมณ์อย่างไรในขณะสงบในการสอนบทเรียนที่มีความตื่นเต้น
ประเภทกิจกรรมมี 3 แบบด้วยกัน
1.คำถามที่ใช้ความคิดพื้นฐาน เป็นคำถามง่ายๆไม่ต้องใช้ความคิดลึงซึ้งอะไรมาก ต้องใช้ประสบการณ์เดิม
2.คำถามเพื่อค้นหว้า
การเข้าใจ การนำไปใช้ การเปรียบเทียบ เหตุผล สรุปหลักการ
3.คำถามที่ขยายความคิด
เป็นคำถามที่ไม่ได้กำหนดแนวคำตอบ เหมาะสำหรับเป็นจุดเริ่มต้นใช้ผู้เรียนมีแนวคามคิดกว้างขวาง คำถามประเภทนี้ได้แก่
3.1 การคาดคะเนเน้นคำถามเชิงคาดการณ์
3.2การวางแผน เป็นคำถามที่ตอบสนองแนวความคิดของผู้เรียน
3.3 การวิจารณ์
3.4 การประเมินค่า คือ การเปรียบเทียบ
ประเภทการเสริมกำลังใจ
1.การเสริมกำลังใจที่เกิดขึ้นจากความต้องการภายในของผู้เรียน
2.การเสริมกำลังใจภายนอก ชนิดการเสริมกำลังใจปรากกฎควบคู่กับพฤติกรรมที่ถูกต้อง
2.2 การเสริมกำลังใจด้วยการให้รางวัล
2.3 การเสริมกำลังใจโดยให้ผู้เรียนเห็นความก้าวหน้าของตนเอง เช่น เมื่อผู้เรียนทำสิ่งใดถูกให้กาเครื่องหมายในตารางปฏิบัติงานของตน
การใช้น้ำน้ำเสียง
ต้องใช้น้ำเสียงให้พอดีไม่ตะโกนเกินไป ต้องออกเสียงพยัญชนะให้ชัดเจนต้องใช้น้ำเสียงที่ชัดเจนนุ่มนวล
ทักษะการอธิบาย
เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้สอนเป็นการบอกการเล่าให้เห็นตามลำดับขั้นตอนการสอนและการอธิบายควรมีการยกตัวอย่าง มี 2ทางคือ
1แบบนิรนัย โดยบอกแล้วยกตัวอย่างขยายกฎหรือหลักการนั้นๆให้เข้าใจ ทฤษฎีหลักการ2.แบบอุปนัย การยกตัวอย่างรายละเอียดย่อยๆ แล้วให้เด็กคิดวิเคราะห์รวบรวมเป็นหลักการ
ลักษณะการอธิบาย
ใช้เวลาอธิบายไม่เกิน10 นาที ควรใช้ภาษาที่ง่ายๆที่เด็กเข้าใจง่ายควบคลุมใจความสนใจเรื่องยากไปง่ายและอธิบายตามแนวคิดของนักเรียนเราจะรู้ว่าเด็กเด็กเข้าใจหรือไม่เข้าใจและครูควรสรุปผลการอธิบายให้เด็กนักเรียนเข้าใจด้วย
ทักษะการเร้าความสนใจ
เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยในการเรียนการสอนประสบผลดี เพราะจะช่วยให้ครูปรับปรุงกลวิธีการสอน
ประโยชน์
1.เด็กเกิดความพร้อมที่จะเรียนมากขึ้น
2.เด็กมีความสนใจในบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ
3.ทำให้ครูมีความสนใจในการสอนและเด็กสนใจเรียน
เทคนิคการเร้าความสนใจ
1.การใช้ ท่าทางประกอบการสอน
2.การใช้ถ้อยคำและน้ำเสียง ถ้อยคำน้ำเสียงควรกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจ
3.การเคลื่อนไหว ขณะสอน ครูควรเปลี่ยนจุดนั่ง และจุดยืนของตน ภาพเคลื่อนไหวย่อมมีชีวิตมากกว่า และน่าสนใจกว่า
4.การเน้นจุดสำคัญ ต้องใช้ลีลา น้ำเสียง และการเว้นระยะการพูดหรือการอธิบาย
ทักษะการใช้คำถาม
เป็นสิ่งสำคัญในการสอน เฉพาะอย่างการใช้คำถามให้เด็กคิดเห็น สติปัญญาเป็นผู้ตามต้องเข้าใจจัดประสงค์ของคำถาม และไม่ควรเป็นคำถามที่อธิบาย แต่ควรเป็นคำถามที่เน้นวิเคราะห์
ประเภทคำถาม
1.คำถามที่ใช้ความคิดพื้นฐาน เป็นคำถามง่ายๆไม่ต้องคิดลึกซึ้ง
คำถามที่ขยายความคิด เมื่อให้เด็กมองสิ่งที่เรียนอยู่และขยายความในสิ่งที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ คำถามประเภทได้แก่ การคาดคะเน เป็นคำถามเชิงสมมุติฐาน คาดการณ์ ซึ่งคำตอบย่อมเป็นไปได้หลายอย่าง
- คำถามที่ใช้การวางแผนเป็นคำถามที่เสนอแนวคิดทางโครงการหรือเสนอแผนงานใหม่
- การวิจารณ์ เป็นคำถามที่ผู้ตอบพิจารณ์เรื่องราวหรือเหตุการณ์ในจุดสำคัญ
- การประเมินค่า ว่านักเรียนชอบสิ่งไหนมากกว่ากัน
เทคนิคการใช้คำถาม
ถามด้วยความสนใจ
ถามอยางกลมกลืน
ถามโดยใช้ภาษาที่พูดเข้าใจง่าย
การให้นักเรียนมีโอกาสตอบหลายคนในการสอน
การเลือกถาม ควรถามผู้เรียนที่อ่อนเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเข้าใจดังนี้
การเสริมกำลังใจ หรือให้ผลย้อนกลับ ควรให้คำชมเชยกับเด็กที่ตอบคำถาม
การใช้คำถามหลายๆประเภทในการสอนแต่ละครั้ง
การใช้กิริยาท่าทางเสียงในการประกอบคำถาม
การใช้คำถามเชิงรุก การใช้คำถามต่อเนื่องอีก เพื่อให้ผู้เรียนได้ความรู้และขยายความคิด
ทักษะ การใช้อุปกรณ์การสอน
ประโยชน์ของอุปกรณ์การสอน
เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในการเรียน
เพื่อให้โอกาสแก่ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน
ทำให้ผู้เรียนเกิดแนวคิด
ทำให้เกิดทักษะการศึกษาหาความรู้
ทำให้ผู้เรียนสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆได้นาน
ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์
เทคนิคการใช้อุปกรณ์
ใช้อุปกรณ์อย่างคล่องแคล่ว
แสดงอุปกรณ์ให้เห็นชัดทั่วห้อง
ควรหาที่ตั้ง แขวนอุปกรณ์ที่มีขนานใหญ่
ควรใช้ไม้ยางและมีปลายแหลมชี้แผนภูมิ
ควรนำอุปกรณ์มาวาง เรียงกันไว้เป็นลำดับก่อนถึงเวลาสอนเพื่อสะดวกในการหยิบใช้
ควรเลือกใช้เครื่องมือประกอบการใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม
ควรมาการเตรียมผู้เรียนก่อนล่วงหน้าการใช้อุปกรณ์
ควรใช้อุปกรณ์ให้คุ้มค่ากับที่เตรียมมา
พยายามเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ร่วมกิจกรรม
ควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์บางชนิด
ทักษะและเทคนิคการใช้กระดานดำ
ครูควรทำความสะอาดกระดานดำทุกครั้งที่เข้าสอน
การเรียนควรแบ่ง3ส่วนหรือ4ส่วน หรือขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่จะเขียน
ในการเรียนควรเขียนจากซ้ายมือไปขวามือ
ถ้ามีหัวข้อเรื่อง ชื่อเรื่องควรไว้ตรงกลางกระดานดำในส่วนที่เราแบ่งไว้
ขณะเขียนต้องแบ่งกระดานพอประมาณ
ในการเขียนหนังสือ ต้องให้เป็นเส้นตรงไม่คดเคียว
ถ้าต้องการอธิบายข้อความบนการดานดำ ไม่ควรยืนมาก
ถ้ามีข้อความสำคัญ อาจใช้ชอล์กขีดเส้นใต้
ควรใช้ชอล์กสี เมื่อต้องการเน้นข้อความโดยเฉพาะ
เขียนคำตอบของผู้เรียนลงกระดาน เพื่อเสริมกำลังใจ
ใช้เครื่องมือในกานเขียนรูปทรงบนกระดาน
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการใช้กระดานดำด้วย
ถ้ามีเรื่องใหม่ควรลบของเก่าออกให้หมด
การลบกระดานต้องลบให้ถูกวิธี โดยลบกระดานจากบนลงล่างและลบไปทางเดียวกัน
8.ทักษะการเสริมกำลังใจ
ประเภทการเสริมกำลังใจ
ความต้องการภายใน เช่น ความพอใจ
การเสริมกำลังใจภายนอก เช่น การชมเชย การให้รางวัล ได้แก่
- การเสริมกำลังใจโดยให้นักเรียนมีส่วนร่วม ในการชมเชย เช่นตบมือ
- การเสริมกำลังไว้โดยการให้รางวัล
- โดยการให้ผู้เรียนเห็นความต้องการของตนเอง
ทักษะการสรุปบทเรียน
- เป็นการสอนที่ผู้สอนพยายามให้นักเรียนรวบรวมความคิด ความเข้าใจของตนจากการเรียนรู้ที่ผ่านมา ว่าได้สาระสำคัญหลักเกณฑ์ ข้อเท็จจริง
- การสรุปบทเรียนเป็นสิ่งที่ต้องทำคู่กับการสอน
รูปแบบการสรุปบทเรียน มี 2 รูปแบบ คือ
การสรุปคิดเนื้อหาสาระ การสรุปคิดความเห็น
เทคนิคการสรุปบทเรียน
- สรุปโดยการอธิบาย
- สรุปโดยใช้อุปกรณ์
- สรุปโดยการสรุปโดยการเล่านิทาน
- สรุปโดยการสร้างสถานการณ์
- สรุปโดยการสาธิต

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น