การอธิบายและยกตัวอย่าง
การที่ครูอธิบายและยกตัวอย่างให้แก่นักเรียนนั้นมีวัตถุประสงคืเพื่อให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาหรือปฎิบัติตามจุดประสงค์ของบทเรียนได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้เรื่องต่อไปหรือประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ รวมทั้งช่วยพัฒนาความคิดของนักเรียนได้อีกด้วย
ประโยชน์ที่สำคัญในการอธิบายและยกตัวอย่างได้แก่ การเป็นสื่อให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาบทเรียน ช่วยให้นักเรียนมีความสุขเพราะสามารถเข้าใจบทเรียนได้ และช่วยให้นักเรียนจดจำเนื้อหาสาระของบทเรียนได้นานและนำไปใช้ได้ รวมทั้งช่วยพัฒนาความคิดของนักเรียน ได้อีกด้วย
กระบวนการอธิบายที่ดีทั้ง 5 ชั้น ซึ่งได้แก่ 1) ขั้นนำ 2) ขั้นอธิบายและยกตัวอย่าง 3) ขั้นการใช้สื่อประกอบการอธิบาย 4) ขั้นการสรุป 5) ขั้นวัดและประเมินผล จะช่วยให้การอธิบายของครูมีประสิทธิภาพ และบรรลุผลทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และสามารถกำหนดมโนทัศน์หรือสรุปเนื้อหาได้ด้วยตนเอง ซึ่งทำให้นักเรียนมีความรู้ที่คงทนยาวนานยิ่งขึ้น
เทคนิคการอธบายและยกตัวอย่างที่ครูควรทราบและนำไปปฎิบัติมีหลายประการที่สำคัญได้แก่ การใช้น้ำเสียงที่ชัดเจน แจ่มใส พูดอธิบายอย่างมีจังหวะ ให้ตัวอย่างตรงประเด็นและสอดคล้องกับวัย ความรู้ ความสนใจ และประสบการณ์เดิมของนักเรียน อธิบายในสิ่งที่ง่ายไปสู่สิ่งที่ยาก ยกตัวอย่างเพิ่มเติมจากหนังสือที่ใช้เรียน และควรสรุปสาระสำคัญของสิ่งที่อธิบายไปแล้วเป็นระยะๆรวมทั้งควรมีอารมณ์ขันบ้าง
ในการอธิบายควรใช้สายตาตรวจสอบความสนใจของนักเรียน เพื่อปรับลักษณะการอธิบาย นอกจากนี้ ครูควรใช้กิริยาท่าทางประกอบการอธิบาย ใช้คำอธิบายที่ต่างกันแต่มีความหมายเดียวกัน และควรทดสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยให้นักเรียนยกตัวอย่างเพิ่มเติมจากที่ครูยกไปแล้ว
ที่มา
http://www.google.co.th/search?